เมื่อซื้อสินค้า duck group ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 - 15 กุมภาพันธ์ 2566 คุณสามารถนำใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี
ไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีภาษี 2566 ตามยอดที่ซื้อจริง สูงสุดได้ถึง 40,000 บาท*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่รัฐบาลกำหนด
ช้อปดีมีคืน 2566 เงื่อนไขมีอะไรบ้าง
ต้องซื้อสินค้าหรือใช้บริการจาก duck group ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปให้ได้เท่านั้น
สินค้าและบริการที่จะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ต้องเป็นสินค้าและบริการที่เสียภาษี VAT หากเป็นสินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษี VAT จะไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
ต้องซื้อสินค้าหรือรับบริการ duck group และจ่ายค่าสินค้าหรือค่าบริการนั้น ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 15 กุมภาพันธ์ 2566
หากจ่ายค่าสินค้าในปี 2565 แต่ไปใช้บริการในวันที่ 1 มกราคม - 15 กุมภาพันธ์ 2566 จะไม่สามารถใช้สิทธิช้อปดีมีคืนได้ เพราะถือว่าไม่ได้ใช้จ่ายในช่วงเวลาที่กำหนด
ช้อปดีมีคืน 2566 ใครได้สิทธิบ้าง ?
ผู้ที่ใช้สิทธิได้คือ บุคคลธรรมดาที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 2566 และต้องการนำค่าใช้จ่ายจากโครงการนี้ไปใช้ลดหย่อนภาษี 2566 ที่จะยื่นแบบในต้นปี 2567
ส่วนคนที่ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี หรือมีรายได้ถึงเกณฑ์เสียภาษี แต่มีค่าลดหย่อนอื่น ๆ ที่ทำให้ไม่ต้องเสียภาษี จะไม่ได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้ เนื่องจากไม่ได้เข้าข่ายที่ต้องจ่ายภาษีอยู่แล้วนั่นเอง จึงไม่สามารถนำค่าใช้จ่ายจากช้อปดีมีคืนไปหักภาษีได้
ช้อปดีมีคืน 2566 ลดหย่อนภาษีได้เท่าไร
ใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 40,000 บาท โดยแบ่งเป็น
ค่าซื้อสินค้า-บริการ จำนวน 30,000 บาทแรก โดยออกใบกำกับภาษีแบบกระดาษ หรือใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ออกผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร
ค่าซื้อสินค้า-บริการ อีกจำนวน 10,000 บาท เฉพาะใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ออกผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร
หากใช้จ่ายเกินจะนำมาลดหย่อนภาษีได้ตามวงเงินสูงสุดเท่านั้น เช่น ซื้อสินค้ารวม 35,000 บาท แล้วได้รับใบกำกับภาษีแบบกระดาษทั้งหมด จะสามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้เพียง 30,000 บาท เท่านั้น
การซื้อสินค้า 40,000 บาท ไม่ได้หมายความว่าจะหักภาษีได้ 40,000 บาทเลย แต่จะลดหย่อนได้เท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับฐานภาษีของตัวเอง ซึ่งต้องคำนวณจากเงินได้สุทธิที่เหลืออยู่ โดยในแต่ละขั้นจะสามารถลดหย่อนได้สูงสุดตามตารางต่อไปนี้
เช่น ถ้ามีเงินได้สุทธิ 600,000 บาท เท่ากับอยู่ที่ฐานภาษี 15% ถ้าใช้จ่ายในโครงการช้อปดีมีคืนแบบเต็มแม็กซ์ 40,000 บาท ก็จะหักลดหย่อนภาษีได้ 6,000 บาท เปรียบเหมือนกับการซื้อสินค้าชิ้นนั้นโดยได้ส่วนลด 15%
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่มีฐานภาษีไม่สูง เช่น 5% ก็ต้องพิจารณาก่อนใช้จ่ายว่าคุ้มค่าหรือไม่ที่จะจ่ายเงิน 40,000 บาท เพื่อแลกกับการคืนภาษี 2,000 บาท แต่ถ้าตั้งใจจะซื้อสินค้าในช่วงนั้นอยู่พอดีก็อาจจะถือว่าได้ส่วนลดเพิ่ม 5%
ส่วนใครที่ยังไม่แน่ใจว่าเงินได้สุทธิของตัวเองคือเท่าไหร่ สามารถอ่านได้ที่นี่ >> วิธีคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
สินค้า ช้อปดีมีคืน 2566 ร่วมมาตรการ
ค่าซื้อสินค้า และค่าบริการทุกประเภทที่ซื้อจากผู้ประกอบการ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
สินค้าโอทอป
โดยปีนี้ สรรพากร เพิ่มให้ "ค่าน้ำมัน" สำหรับรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เข้าร่วมมาตรการช้อปดีมีคืนได้เป็นครั้งแรก
ช้อปดีมีคืน ใช้หลักฐานอะไรยื่นลดหย่อนภาษี ?
1. ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบกระดาษ
สำหรับการซื้อสินค้าจากร้านค้าที่จดทะเบียน VAT โดยใช้ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30,000 บาท
2. ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
จะซื้อจากร้านค้าทั่วไป หรือร้านค้าออนไลน์ก็ได้ แต่ร้านค้านั้นจะต้องออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ที่ออกผ่านระบบของกรมสรรพากร
ตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการที่สามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ที่นี่
3. ใบเสร็จรับเงิน
สำหรับการซื้อหนังสือ รวมทั้งสินค้า OTOP ที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว โดยกรณีเป็นสินค้า OTOP ต้องระบุชื่อ-นามสกุลของผู้มีเงินได้ และระบุว่าสินค้านั้นเป็นสินค้า OTOP ไว้ในใบเสร็จ หรือประทับตรายางที่มีชื่อการค้า หรือเครื่องหมายที่ระบุข้อความว่า "สินค้าทุกรายการเป็นสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์" หรือข้อความอื่น ๆ ในลักษณะทำนองเดียวกัน ไว้บนใบเสร็จ
ทั้งนี้ สามารถนำใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป หรือใบเสร็จรับเงิน หลายใบ ๆ มารวมกันได้ ซึ่งถ้ามีหลายใบจะต้องเก็บไว้ให้ดี เพื่อใช้ยื่นภาษีในช่วงต้นปี 2567
Comments